ประชาสัมพันธ์สื่อความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสซิกาและการป้องกันตนเองจากโรคไข้เลือดออกในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์
23 พฤศจิกายน 2566
ประเภท : ข่าวประชาสัมพันธ์
ข้อมูลรูปที่เกี่ยวข้อง
“ไวรัสซิก้า” สามารถส่งผ่านจากแม่สู่ทารกในครรภ์ได้ คุณแม่ที่กำลังวางแพลนมีบุตรหรือกำลังตั้งครรภ์ จึงควรทำความรู้จักกับเชื้อไวรัสชนิดนี้ไว้ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยในการติดเชื้อ, อาการ หรือผลกระทบจากไวรัสต่อทารกในครรภ์ เพราะคุณคงไม่อยากเห็นลูกเติบโตมาพร้อมกับความผิดปกติ
มาทำความรู้จัก กับ “ไวรัสซิก้า”
ไวรัสชนิดนี้ เป็นเชื้อไวรัสในตระกูล flavivirus ที่มียุงเป็นพาหะนำโรค โดยเป็นยุงชนิดเดียวกันกับ “ไวรัสไข้เลือดออก” ซึ่งหากถูกยุงที่มีเชื้อไวรัสซิก้ากัด ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้
ความบกพร่องของทารก..ที่เกิดจากแม่ติดเชื้อไวรัสซิก้า
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์เกิดติดเชื้อไวรัสซิก้า ไวรัสนี้จะมีผลทำให้ “สมอง” ของทารกเกิดความผิดปกติหรือเกิดภาวะบกพร่อง เช่น Microcephaly หรือภาวะศีรษะเล็ก เป็นภาวะที่ศีรษะของทารกมีขนาดเส้นรอบศีรษะเล็กกว่าทารกวัยเดียวกัน พร้อมทั้งยังส่งผลต่อการพัฒนาทางด้านสมอง ทำให้ทารกอาจเติบโตไปเป็นเด็กที่มีความพิการได้
ปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสซิก้า
1.ถูกยุงที่เป็นพาหะของไวรัสซิก้ากัด
2.ไวรัสซิก้าสามารถติดต่อทางการมีเพศสัมพันธ์ได้
3.เมื่อแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสซิก้า เชื้อนี้จะส่งผ่านไปยังทารกในครรภ์
4.หากผู้ให้เลือดมีเชื้อไวรัสซิก้า เชื้อจะส่งต่อมายังผู้รับเลือดได้
เมื่อตั้งครรภ์..ต้องป้องกันตัวเองจากไวรัสซิก้าอย่างไร?
การป้องกันที่นับว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด คือ การไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยงจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว เช่น ไม่เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการแพร่เชื้อไวรัสโดยยุง ใช้ถุงยางอนามัยหรืองดการมีเพศสัมพันธ์หากสามีของคุณเพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสนี้
ถ้ามีอาการแบบนี้..คุณแม่ต้องรีบไปพบแพทย์
โดยส่วนมากในผู้ที่ติดเชื้อไวรัสซิก้าจะไม่แสดงอาการ แต่หากมีอาการ มักจะเกิดเป็นผื่นแดง มีไข้ ปวดตา(ตาแดง) มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ปวดศีรษะ และอาเจียน ซึ่งจะมีอาการติดต่อกันนานถึง 1 สัปดาห์ และมีความคล้ายคลึงกับอาการของไข้เลือดออก หากมีอาการเหล่านี้หรือรู้ว่าตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดจะดีกว่า
เพื่อปกป้องลูกน้อยในครรภ์…ตลอดจนลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน คุณแม่ตั้งครรภ์ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทั้งที่แสดงอาการและไม่แสดงอาการ ควรเดินทางมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป!!
ข้อมูลไฟล์ที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูล!!